การตรวจการติดเชื้อ COVID-19
ที่มา จุฑาภรณ์ นันทจินดา พย.ม.การควบคุมการติดเชื้อ
เป็นการตรวจว่ามีการติดเชื้อ COVID-19 หรือไม่เป็นการตรวจเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อ ทราบถึงความชุกของเชื้อโรค และควบคุมการแพร่กระจายของโรค
รูปแบบการตรวจมี 3 วิธีคือ
- RT PCR (Real time Polymerase Chain Reaction) เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อโรค ซึ่งมีความไว Sensitivity และ ความจำเพาะ Specificity สูงใช้ตัวอย่างจากเยื่อเมือกบริเวณหลังโพรงจมูก ระยะเวลาในการแปลผล 24-48 ชั่วโมง
- Rapid antigen test เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นเพื่อหา antigen สารก่อโรค เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ความไวและความจำเพาะต่ำ ใช้ตัวอย่างเช่นเดียวกับ RT PCR ระยะเวลาในการอ่านผล 15-30 นาที
- Rapid Antibody test เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นเพื่อหา antibody หรือ โปรตีนที่สร้างจากภูมิต้านทานของร่างกาย เก็บตัวอย่างจากเลือดทั้งปลายนิ้วและเส้นเลือดดำอื่นๆ ระยะเวลาในการแปลผล 3-6 ชั่วโมง
การอ่านและแปลผล
ช่วงเวลา | Rapid antigen test | Rapid antibody test | RT PCR |
เพิ่งรับเชื้อ | -Negative | -Negative | +Positive |
3-5 วันหลังสัมผัสเชื้อ | +Positive | -Negative | +Positive |
5-14 วันหลังสัมผัสเชื้อ | +Positive | +Positive | +Positive |
หายป่วยแล้ว | -Negative | +Positive | -Negative |
| Rapid antigen test | Rapid antibody test |
False Negative | ติดเชื้อในช่วงแรกอาจให้ผลลบ | ติดเชื้อในช่วงแรกอาจให้ผลลบ |
False Positive | ติดเชื้อกลุ่ม corona virus ที่ไม่ใช่ COVID 19 | ติดเชื้อแล้วหายแล้ว หรือได้รับวัคซีน |
ไม่แนะนำให้ซื้อชุดมาตรวจเองเนื่องจาก
- โอกาสในการเก็บตัวอย่างไม่ถูกวิธี และการเก็บตัวอย่างอาจทำให้เกิดการไอ จาม อย่างรุนแรง เกิดการแพร่กระจายเชื้อต่อผู้อื่นได้
- อาจเกิดการแปลผลที่ผิดพลาด เมื่อเจอผลลบ ไม่ได้หมายความว่าติดเชื้อ แต่อาจอยู่ในช่วงที่ตรวจไม่พบเชื้อทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อจากการไม่ระมัดระวังได้
- การทิ้งชุดตรวจซึ่งเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโดยตรงอาจส่งผลต่อผู้ใกล้ชิดในการติดเชื้อได้
- หากเกิดผลบวกหรือผลลบแล้วอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ต้องได้รับการตรวจยืนยันด้วย RT PCR อีกครั้ง อาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนได้
